คนที่มีคุณภาพการมองเห็นผิดปกติ แล้วไม่ได้รับการแก้ไข สมองส่วนควบคุมการมองเห็น และสมองส่วนกลาง จะพยายามฝืนเพ่ง เพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น ทำให้ประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมองด้านอื่น ลดลง และหากยังใช้สมองฝืนเพ่งติดต่อกัน เป็นระยะเวลายาวนาน ต่อเนื่องกันตลอดทั้งวัน อาจมีผลทำให้สมองส่วนที่ทำงานควบคุมอวัยวะอื่น ๆ ทำงานผิดปกติ มีอาการคล้าย ๆ ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ เช่น เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดเบ้าตา ปวดหว่างคิ้ว ปวดหน้าผาก ปวดกลางศีรษะด้านบน ปวดท้ายทอย และปวดศีรษะอย่างรุนแรง คล้ายเป็นไมเกรน
หากได้รับการวินิจฉัยโรค ที่ไม่ตรงกับสาเหตุที่แท้จริง จะทำให้ผู้ป่วย ได้รับผลข้างเคียงของการใช้ยาโดยไม่จำเป็น และต้องเพิ่มปริมาณของยา มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยที่เพิ่มขึ้น จนทำให้อาจเกิดอีกหลายโรคตามมาได้
คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการมองเห็นของเรา จะยิ่งลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องใช้สมองฝืนเพ่งในการมองเห็นหนักขึ้น เราจึงรู้สึกล้า เหนื่อย เหมือนกับเราช้าลง เข้าใจไปเองว่าแก่แล้ว
ในแต่ละวัน ทีมงานจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน Doctor of Optometry ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในประเทศไทย ตลอดจนในต่างประเทศ ช่วยคนจำนวนมาก ไม่ให้เสี่ยงกับการสูญเสียคุณภาพการมองเห็น อันเนื่องมาจากโรคตา และโรคต่าง ๆ ด้วยการตรวจสุขภาพสายตาลูกค้าทุกท่าน และวิเคราะห์ระบบการมองเห็นแต่ละคนอย่างใกล้ชิด ด้วยความใส่ใจในระดับสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าแต่ละท่าน มีคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในระดับสูงสุด เอาไว้ให้ได้นานที่สุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้
นอกจากนี้ ปรมาจารย์โบบิ ยังมีความฝัน อยากจะดูแลสายตาของผู้คน ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงบั้นปลายของชีวิต จัดตั้งศูนย์สุขภาพสายตาไอซอพติก แบบครบวงจร เพื่อพัฒนาคุณภาพการมองเห็นของเด็กทารกแรกเกิด เด็กเล็ก เด็กวัยเรียน คนวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ให้มีคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในระดับสูงสุด เอาไว้ให้ได้นานที่สุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้โดยทีมงานจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงาน Doctor of Optometry ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั่วโลก ภายใต้แนวคิด ไม่จ่ายยา ไม่ผ่าตัด ไม่วินิจฉัยโรค แต่เป็นศูนย์ตรวจสุขภาพสายตาเบื้องต้น และส่งต่อคนไข้ที่ทันสมัยที่สุดในโลก