ศูนย์แว่นตาไอซอพติกได้คิดค้น พัฒนาแว่นตาอัลตร้าโปรเกรสซีฟเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง

ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้คิดค้น พัฒนาแว่นตาโปรเกรสซีฟเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง ซึ่งจะไม่มีจำหน่ายในที่ใด ๆ ในโลก นอกจากที่ไอซอพติก เป็นเลนส์ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง ตามพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคน ตามลักษณะของการมองเห็น ความสามารถในการมองเห็น ตามการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้างที่จะต้องทำงานประสานร่วมกันในการมองไปทางขวา - ซ้าย มองสูง - ต่ำ ก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ให้ภาพคมชัดสมจริง และรู้สึกสบายอย่างที่สุด

ที่ไอซอพติกเราเป็นที่เดียวในโลกที่ทำ และที่เราทำอยู่เพราะว่าเรามีใจรัก เพราะแว่นโปรเกรสซีฟในราคาคู่ละหลายแสนบาท กำไรของเราน้อยมาก ถ้าเทียบกับการทำแว่นแบบธรรมดา เนื่องจาก 1 อัน ใช้เวลาตรวจวัด 3 ชั่วโมง และใช้เวลาในการผลิต ออกแบบ สร้าง ควบคุมคุณภาพ ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นแว่น 1 อัน จะใช้เวลาถึง 2 เดือน ลูกค้าก็ต้องคอย เราเองก็ต้องทำงานกันหนัก เพื่อให้แว่นตาออกมามีคุณภาพดีที่สุด ใช้ประสิทธิภาพได้เต็ม 100 %

คุณ กิดานันท์ โรจนประภา อายุ 55 ปี
ธุรกิจส่วนตัว

สมัยเด็ก ๆ ที่บ้านทำงานเกี่ยวกับทางด้านผลิตนิตยสาร และมีการล้างฟิล์ม ซึ่งยังล้างกันในรูปแบบเก่า ๆ ซึ่งมีเหตุการณ์ที่น้ำยาล้างฟิล์มกระเด็นเข้าตา แล้วล้างตาด้วยน้ำเปล่าล่าช้า และตอนนั้นยังเด็กอยู่ ประมาณ 10 ขวบ จึงไม่กล้าเรียนคุณพ่อคุณแม่เพราะมันเป็นความซนของเราเอง ทำให้จากนั้นมาเลยสายตาเลยสั้นมาตลอด ซึ่งพอตอนหลังคุณครูที่โรงเรียนเห็นก็เลยแจ้งทางผู้ปกครองว่าเราสายตาสั้นนะ ผิดปกติ คุณพ่อคุณแม่ก็เลยยอมพาไปทำแว่นแถววังบูรพา

ตั้งแต่สายตาสั้นที่ว่าโดนเรื่องน้ำยานี่ก็ตั้งแต่ 10 ขวบ จนมาถึง 40 กว่า ๆ ก็ใส่ ซิงเกิ้ลเลนส์มาตลอดเพิ่งจะมาสายตายาวซัก 6 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหา คือ เราเริ่มรู้สึกว่าสายตาเราเริ่มยาว แต่ในขณะเดียวกันสายตาสั้นก็ยังอยู่ ก็เลยเริ่มไปหาปรับเปลี่ยนว่าจะต้องเปลี่ยนเลนส์อะไรยังไง ก็ไปลองมา 3 ที่ ใช้มาที่ละ 6 เดือน บางที่ก็ 1 ปี สายตาก็ยังไม่คงที่ก็ยังปรับเปลี่ยนกันอยู่เรื่อย แล้วพอมาอ่านแมกกาซีนเจอของไอซอพติกก็เลยว่าเอ๊ะ...ทดลองดูดีกว่า

พี่เป็นคนที่ว่าตามันมีแค่สองข้างมันเปลี่ยนไม่ได้ใช่ไหมครับ อย่างแขนเรายังใส่แขนเทียมได้ ก็เลยให้ความสำคัญกับตรงนี้ แต่ละที่เขาก็จะโฆษณาว่าคนที่วัดสายตาของเขาก็มีความชำนาญระดับหนึ่งใช่ไหมครับ แต่ว่าพอพี่มาวัดที่ไอซอพติกเนี่ย ก็รู้สึกว่าที่นี่เค้าจะแบ่งแยกว่าจุดนี้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญโดยตรงของแต่ละจุดมาตรวจวัดก็ละเอียดดีครับ รู้สึกว่านุ่มนวลดี ชัดแจ่ม แต่ไม่แสบตา มันธรรมชาติ นุ่มนวล และก็รู้สึกสบายตา ถ้าให้พูดตรง ๆ นี่คือใส่ปุ๊บก็โอเคเลยอาจจะโชคดีตรงนี้รึเปล่าไม่รู้นะ

แล้วการบริการของที่นี่ต้องยอมรับว่าประทับใจนะครับ ตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามาในร้าน พนักงานจะต้อนรับ ให้คำแนะนำ และเป็นกันเองดีครับ ส่วนเรื่องราคาอันนี้ก็ต้องยอมจ่าย เราคิดว่ามันคุ้มค่าที่เราจ่ายไปเพราะว่ามีรับประกันหลังการขายด้วยครับ

คุณ เอกกมล ประสพผลสุจริต อายุ 52 ปี
Chief Financial Officer Special Project

ผมเริ่มมีปัญหาสายตาตั้งแต่เด็ก ในช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตอนผมนั่งอยู่หลังห้อง เวลามองไปที่หน้ากระดานรู้สึกมองไม่ชัด เวลาจะจดอะไร ก็จะต้องเดินไปหน้าห้องทุกครั้ง แล้วค่อยเดินกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง จึงได้ไปปรึกษากับคุณแม่ ว่าทำไมถึงมองเห็นกระดานไม่ชัด คุณแม่เลยพาไปตัดแว่น จึงเริ่มรู้ว่าตัวเองนั้นมีปัญหาสายตาสั้น หลังจากนั้นจึงได้ใส่แว่นตามาตลอดจนถึงปัจจุบัน

เหตุผลที่หันมาใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ เพราะเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีปัญหาสายตาทั้งสั้น และยาวมากขึ้น เนื่องจากงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันจะต้องดูรายงาน และตัวเลขต่าง ๆ อีกทั้งตัวอักษรในรายงานที่ทีมงานส่งมาให้ ตัวอักษรเริ่มเล็กลงเรื่อย ๆ จากเดิมที่ใช้แว่นสายตาสั้นมาตลอด ก็เริ่มรู้สึกว่านับวันยิ่งมองตัวเลขไม่ชัดมากขึ้น จึงเริ่มไปปรึกษาร้านแว่นตา ร้านแว่นตาจึงแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ซึ่งสมัยก่อนเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีความเหลื่อมระหว่างสายตาสั้นกับสายตายาว โดยเวลาที่จะมองไกล จำเป็นที่จะต้องก้มหน้าเวลามอง เลยทำให้รู้สึกวิงเวียน นอกจากนี้จะต้องพยายามปรับสายตาตัวเองอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่เปลี่ยนมุมการมอง

หลังจากนั้นก็ได้รับคำแนะนำจากญาติที่เคยมาตัดแว่นตาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ว่าศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมีชื่อเสียงในเรื่องของแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด โดยผมมาเริ่มตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังจากใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการตัดแว่นตา มีการวัดสายตาอย่างละเอียด และมีการเอาใจใส่ทุกรายละเอียดในมุมมองต่าง ๆ ส่วนแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ที่ใช้อยู่นั้นไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย อีกทั้งใส่แล้วยังรู้สึกสบายตาอย่างที่สุด ไม่ว่าจะมองในระยะใกล้ หรือระยะไกล เมื่อเทียบกับแว่นตาที่เคยไปตัดกับที่อื่น ๆ

ต้องยอมรับเลยว่าการที่อยากได้ของที่มีคุณภาพ และการบริการที่ดี ต้องทดแทนด้วยการที่จะจ่ายการลงทุนที่พอสมควร ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหมกับระยะเวลา 2 ปี กับการที่ได้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ตอบเลยว่ารู้สึกดีมาก และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน อีกทั้งคุณภาพหลังการขายของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีการให้บริการหลังการขายเป็นอย่างดี คอยติดตามผลเป็นระยะ และที่ถูกใจ คือ พยายามตามให้มาตรวจวัดสายตา เมื่อครบกำหนดระยะเวลาหนึ่งอีกด้วย