แว่นตาเฉพาะบุคคล ที่สร้างโดยศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จึงสามารถปฏิวัติ ข้อจำกัดเดิมๆ ของแว่นตาราคาแพงเทคโนโลยีอื่น ด้วยการวิเคราะห์ระบบการมองเห็น แบบดิจิตอล 3 มิติ อย่างละเอียด ถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ตามค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และตามการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้าง ในทุกระยะ ทุกองศาการมอง แล้วออกแบบ สร้างเลนส์แว่นตาแต่ละข้าง อย่างเฉพาะเจาะจง ตามพฤติกรรมการใช้สายตาจริงของผู้ใช้แต่ละคน ตามขนาดรูม่านตา และตำแหน่งจุดศูนย์กลางของรูม่านตาที่แท้จริง บนกรอบแว่นแต่ละอัน ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างความพึงพอใจในการใช้สายตาระดับสูงสุด สำหรับลูกค้าแต่ละคนอย่างแท้จริง
เลนส์แว่นตาเฉพาะบุคคล ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทุกรุ่น ถูกสร้างขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจง สำหรับผู้ใช้แต่ละคน เข้าหาพฤติกรรมการใช้สายตา ในชีวิตจริง ของผู้ใช้แว่นตาแต่ละคนทั้งชีวิต เพื่อช่วยให้ไม่ต้องใช้สมองฝืนเพ่งทั้งชีวิต เพื่อปรับเข้าหาความจำกัดของแว่นตาอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างคนที่มีปัญหาทางสายตาทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อีกต่อไป
ผู้ใช้แว่นตาเฉพาะบุคคล ที่สร้างโดยศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก สามารถสนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ มีพลังเพิ่มขึ้น ใส่สบาย เสมือนแว่นตา เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ตาม
คุณ ทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ อายุ 61 ปี
อดีตรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
เมื่ออายุมากขึ้น ก็มีปัญหาเรื่องสายตายาว และอาจจะเอียงนิดหน่อย มีไปปรับแว่นบ้าง บางครั้งไปซื้อแว่นที่ขายตามท้องตลาด จะค่อนข้างมีปัญหา เช่น วิงเวียนศรีษะ
เมื่อเปรียบเทียบกับศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก การตรวจจะไม่ละเอียดขนาดนี้ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกใช้เวลาค่อนข้างเยอะในเรื่องความละเอียด ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ และจักษุแพทย์ ใส่ใจในเรื่องความละเอียดในการตรวจทุกแง่มุม
ซึ่งเมื่อนำแว่นที่ได้ไปใช้งานอย่างต่อเนื่อง จะรู้สึกคุ้นเคยสบายตา และหลังจากนั้นผมไปพบจักษุแพทย์เองด้วย เนื่องจากเป็นข้าราชการ เมื่อไปตรวจเรื่องสายตา กลุ่มหมอบอกว่าสายตาดีมาก ถามว่าใช้อะไร ผมบอกว่ามาที่ร้าน ISOPTIK รักษาสายตาได้ค่อนข้างดี
ซึ่งแว่นตาของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกใช้เวลาปรับตัวน้อยมาก เพราะว่าผมเข้าใจว่าขั้นตอนการตรวจ ขั้นตอนการศึกษา ปรับแว่น ปรับเลนส์ของสายตาน่าจะเข้ากับแว่นได้ค่อนข้างดี
ยิ่งตอนเข้าประชุมหรือดู PowerPoint ไปนำเสนองาน ต้องใช้ตลอดเวลา ก็ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนเกษียณไปทำงานเป็น Operation เป็นการทำงานที่ค่อนข้างลำบาก เพราะฉะนั้นค่อนข้างระวังเรื่องแว่น แต่เมื่อไรที่นั่ง หรือใช้โทรศัพท์ ทำกิจกรรมจะต้องมีแว่นประกอบอยู่
แว่นเดิมแทบจะไม่อยากใส่ ใส่เพื่อให้อ่านหนังสือมีความชัดเจน มีความมั่นใจในการอ่านเอกสารต่างๆ แต่พอใส่แล้วต้องรีบถอด เลยเปรียบเทียบกับตอนนี้ขาดไม่ได้คือแว่นของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ต้องใส่ตลอดในกรณีที่ทำงานเอกสาร อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมต่างๆ
คุณ เกษม แซ่เอ็ง อายุ 63 ปี
เจ้าของธุรกิจส่วนตัว
ก่อนที่จะทำแว่นสายตากับไอซอพติก ผมจะมีอาการแย่มาก ก็คือ เวลาที่เราออก outdoor เจอแสงแดด หรือขับรถ จะมีอาการที่เราลืมตาไม่ขึ้น แล้วจะปวดหัว พอเราลืมตาไม่ขึ้น เราก็จะฝืน หลังจากนั้นเราก็จะปวดหัวทันที ก็ไม่ทราบว่าเราเป็นอะไร ก็ตัดแว่นธรรมดาใส่ ก็ดีขึ้น แต่มันก็เป็นอีก และเป็นหนักขึ้น อาการที่เราเจอแสงมันหนักขึ้น แล้วปวดหัว ปวดแบบแย่เลย หลังจากนั้น คงจะเป็นเรื่องแว่นนี่แหละ ที่เราพยายามหาดูว่ามันคืออะไร เสร็จแล้วก็มาเจอ อาจจะเป็นเรื่องของเพื่อนบอก หรือ Magazine ผมจำไม่ได้ ก็เลยได้เข้ามาที่ไอซอพติก ก็ได้พบจักษุแพทย์ แล้วก็ ปรมาจารย์โบบิ ได้ทำการวัดระยะ แล้วก็ทำแว่น ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมากตอนนั้น การมองอะไรต่าง ๆ มันเปลี่ยนไปหมดเลย โดยเฉพาะของผมเป็นระยะ ๆ เสร็จแล้วหลังจากที่ทำแว่นไป ฝึกการมอง ต้องฝึกการมองด้วย เพราะมันเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ อีกอย่างอันนี้มันเป็นปริซึมด้วย
สาเหตุที่ทำแบบนี้ ปรมาจารย์โบบิ ก็บอกว่ามันจะทำให้สมอง และสายตาเราดีขึ้น ไม่ทำงานหนักเกินไป และม่านตามันจะปรับด้วยตัวมันเอง มันก็เป็นเหตุผลหนึ่ง โดยส่วนตัว คือ ไม่รู้ ก็เอาไปใช้ หลังจากนั้น อาการของการรับแสงที่เราสู้ไม่ได้ เริ่มสู้ได้ เริ่มรับได้ พอเริ่มสู้ได้ เริ่มรับได้ สมองมันก็ทำงานได้ดีขึ้น พอใส่แว่นไปสักปีหนึ่ง เราจะรู้ทันทีเลย รู้สึกเลย แต่แรก ๆ จะยากนิดนึง เพราะมันเป็นโปรเกรสซีฟ มันลำบากมากแล้วเป็นปริซึมด้วย ปริซึมมันก็ต้องดึงสองตามาอยู่ในที่จุดโฟกัสเดียวกัน แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่กี่อาทิตย์สายตาเราก็ฝึกได้ ปรับได้