จากสไตล์การทำงานแบบถึงลูกถึงคนของ ปรมาจารย์โบบิ ที่ไม่ยอมประนีประนอมกับความบกพร่องใด ๆ ทั้งสิ้น ชอบความเรียบร้อย ความสมบูรณ์แบบ และทำสิ่งที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ ให้ดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายในการทำงานว่า พรุ่งนี้จะทำให้ดีกว่าสิ่งที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ รักการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เขาจึงทุ่มเทฝึกฝนทีมงานทุกคนอย่างหนัก เพื่อให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างสุดหัวใจ ในการตรวจวิเคราะห์สายตาประกอบ แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีใหม่ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนอย่างเฉพาะเจาะจง บนกรอบแว่นแต่ละอัน จนได้แว่นสายตาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งสามประการ คือ See better, feel better and look better ( มองเห็นภาพคมชัดกว่าเดิม , ใส่สบายกว่าเดิม , เสริมบุคลิกได้ดีกว่าเดิม ) เป็นแว่นสายตาระดับมาสเตอร์พีซ ที่ใส่สบาย มีคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ดูดีสวยงามในทุกรายละเอียด ภายใต้ปรัชญาการทำแว่นสายตาของ ปรมาจารย์โบบิ ที่ว่า " Life is too short to limit your vision "
คุณน้ำทิพย์ ประสิทธิ์์สกุลชัย
Senior Vice President - Branding & Digital Marketing
ประสบการณ์การใช้แว่นตา คือ เคยใช้ยี่ห้อดังที่เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟระยะกลาง มองเห็นได้ประมาณ 15 เมตร ใช้ได้ประมาณเกือบปี พอผ่านไปสักระยะก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายตา พอเข้าปีกว่า ๆ เวลาที่ใส่แว่นไปที่สักระยะเวลาหนึ่งก็เริ่มปวดศีรษะ จึ่งเริ่มรู้สึกว่าควรเปลี่ยนแว่นตา ซึ่งในขณะนั้นพอดีไปเห็นป้ายโฆษณาหนึ่งซึ่งแปลกตา จึงสงสัยว่าคืออะไร สุดท้ายก็ได้เข้าไปค้นหาทางอินเตอร์เน็ต แล้วค้นพบว่าเป็นศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก
โดยครั้งแรกที่มาศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก รู้สึกว่าสถานที่ดูโอ่โถง และมีเครื่องมือเยอะ ส่วนที่ประทับใจ คือ วิธีการตรวจวัดสายตา เนื่องจากมีขั้นตอนการตรวจวัดสายตาที่ละเอียดมากกว่าที่อื่นที่เคยไป และหลังจากนั้นเมื่อได้ลองใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก รู้สึกเลยว่าภาพที่เห็นมันนุ่มนวลมาก และสบายสายตามากแบบนึกไม่ถึง จนต้องเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง อีกทั้งบริการหลังการขายก็ดีเลิศ เพราะว่าจะมีการโทรถาม และติดตามเป็นระยะ
คิดว่าคุ้มค่ามากที่ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เพราะพอใช้งานแล้ว หารเป็นค่าเฉลี่ยรายวันรู้สึกคุ้มค่ามาก กับความรู้สึกที่ได้รับ
ศาสตราจารย์พิเศษ บุญมา เตชะวานิช
ศาสตราจารย์พิเศษ สาขาวิชานิติศาสตร์ สังกัดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมเริ่มมีปัญหาทางสายตาเมื่อตอนอายุ 20 ปี ช่วงแรกมีปัญหาแค่สายตาสั้น ต่อมามีปัญหาสายตาเอียงเพิ่มมาด้วย
ผมเริ่มใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟเมื่อตอนอายุ 40 กว่าปี หลังจากที่ได้ใช้งานแล้ว การมองเห็นที่ได้รับมานั้น ไม่ค่อยมีความคมชัดเท่าไร นอกจากนี้พอใช้ไป นาน ๆ จะเริ่มมีอาการปวดศีรษะ และมักจะมีปัญหาเวลาอ่านหนังสือ เนื่องจากมองเห็นตัวอักษรไม่ค่อยชัดเจน ต้องคอยใช้แสงไฟช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพ ในการมองเห็น
หลังจากนั้นผมมีโอกาสได้เปลี่ยนมาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีใหม่ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่า ใส่แล้วสบายตามากกว่า มองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการภาพบิดเบี้ยวด้านข้างเลย และสามารถปรับตัวให้เข้ากับแว่นตาได้เร็วมาก อย่างมากก็ ใช้เวลาปรับตัวแค่ 1 - 2 วันเท่านั้นเอง อีกทั้งยังกะระยะสิ่งของได้อย่างแม่นยำ
ดังนั้นหลังจากเปลี่ยนมาใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้ว ไม่เคยคิดกลับไปใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟอันก่อนหน้านี้เลยครับ เพราะว่า แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ใส่แล้วรู้สึกได้เลยว่าสบายกว่า และสามารถมองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
และที่สำคัญศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีการบริการคอยดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีครับ เมื่อแว่นตาของผมมีปัญหาก็จะเข้ามาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ซึ่งทาง ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จะตรวจเช็คแว่นตาให้หมดทุกส่วนว่า แว่นตามีปัญหาตรงจุดไหน ผมจึงประทับใจศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมากครับ