ในปัจจุบันทั่วโลกยังทำแว่นตาแบบคนใช้ต้องปรับเข้าหาแว่นตาเอง แต่ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเราไม่ได้ทำเช่นนั้น เมื่อแว่นตาไม่ได้ออกแบบเฉพาะบุคคล คนใส่แว่นตาจะต้องฝืนปรับชีวิตทั้งชีวิตเข้าหาความจำกัดของแว่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกอ่อนล้าได้ง่าย โฟกัสภาพได้ช้า และรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว ไอซอพติกสามารถทำแว่นตาให้คนในอายุ 80 - 90 ปี กลับมามองเห็นชัดทุกระยะ ในเสี้ยววินาที ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการสร้างแว่นตาเฉพาะบุคคล เพื่อให้คนๆ นั้น ไม่ต้องปรับตัวเข้าหาแว่นตาอีกต่อไป
แว่นโปรเกรสซีฟ ระบบดิจิตอล 3 มิติ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จึงให้อิสระแห่งการมองเห็น คืนความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้กับผู้คน ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม สำหรับท่านที่สนใจสามารถทำนัดเข้ามาล่วงหน้าเพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็น ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที ในระดับสูงสุด ก็ขอความกรุณาทำนัดล่วงหน้า 3 วัน แล้วจะได้พบกับผม ปรมาจารย์โบบิ ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ซึ่งผมจะเป็นคนออกแบบเลนส์ให้แต่ละคน เป็นผู้ที่จะตรวจสอบคุณภาพของแว่นตาทุกอันด้วยตัวผมเอง เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะได้แว่นตาที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ในงบประมาณที่ทุกคนเอื้อมถึง
บริการหลังการของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ตอนนี้ดีที่สุด ต้องขอบคุณทีมงานไอซอพติก ทั้ง 28 คน ที่ช่วยกันทำงานกันอย่างหนัก เราเป็นทีมงานที่ดีที่สุดในการสร้างแว่นตาเฉพาะบุคคล ให้ลูกค้าทุกคน ได้แว่นตาที่ดีที่สุด ใส่สบายที่สุด มองเห็นได้ชัดที่สุด และเหมือนกับแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งในอวัยวะในร่างกาย
คำยืนยันถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อใช้แว่นไอซอพติกโปรเกรสซีฟ
คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อายุ 62 ปี
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
(แว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ช่วยให้ผมสามารถกลับมา LIVE ACTIVE LIVE ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้อย่างเต็มที่ ผมจึงชวนทั้งภรรยา และเพื่อนมาทำแว่นที่นี่)
ผมเริ่มมีปัญหาทางสายตาตอนอายุ 40 ต้น ๆ ในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไร แต่พออายุ 45 ปี เริ่มมีปัญหาทางสายตามากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องใส่แว่นตา โดยเฉพาะตอนเวลาอ่านหนังสือ ผมมีแว่นตาเอาไว้ใช้สำหรับอ่านหนังสือ กับไว้สำหรับดูคอมพิวเตอร์ในเวลาทำงาน ส่วนตอนขับรถผมไม่ได้ใส่แว่นตา แต่ก็เริ่มสังเกตตัวเองว่า เวลามองระยะไกลมันเริ่มจะแย่ลงเรื่อย ๆ พอได้ใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟ รู้สึกได้ว่าโลกมันชัดขึ้น
ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับแว่นตาโปรเกรสซีฟนั้น รู้มาจาก ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เนี่ยละครับ ช่วงแรกที่ได้ใช้งานแว่นตาโปรเกรสซีฟ ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไร แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถปรับตัวเข้ากันแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้แล้ว ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะใช้เวลาปรับตัวเป็นอาทิตย์ก็ตาม สาเหตุนั้นไม่ใช่เพราะว่าใส่แล้ว รู้สึกมีอาการเวียนหัวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะรู้สึกไม่คุ้นชินกับแว่นตาโปรเกรสซีฟเท่าไร จึงทำให้ต้องถอดแว่นตาบ่อย ๆ ในช่วงแรก แต่พอได้ใช้ไปสักพักหนึ่งแล้ว รู้สึกขาดไม่ได้เลย รู้สึกได้เลยว่าโลกมันสว่างขึ้น แล้วสามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่าถูกใจแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเป็นอย่างมาก จนทำให้ต้องกลับมาตัดแว่นตาเพิ่มอีกหลายคู่ คนรอบข้างผมหลาย ๆ คนก็ตามมาตัดแว่นตากับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือเพื่อน
แต่ผมก็เคยลองเปลี่ยนไปใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟของที่อื่นดูนะครับ ซึ่งบอกได้เลยว่า แว่นตาโปรเกรสซีฟที่ทำจากที่อื่นมานั้นใช้งานได้ไม่ดีเท่า แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ผมว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีประสิทธิ์ภาพการใช้งานที่ดี ผมคุยกับบางคนเค้าก็ยังทนใช้แว่นตาแบบคอยสลับเปลี่ยนเอา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ผมคิดว่าต้องให้เค้าได้ลองใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ดู ซึ่งถ้าได้ลองเค้าน่าจะรู้ถึงความแตกต่าง โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันดีกว่าแน่นอน อีกทั้ง ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ยังมีการบริการที่ดีอีกด้วยครับ
แต่ผมก็ยังมีปัญหานิดหนึ่ง ตรงที่ว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาประเภทดำน้ำ และสกี ซึ่งกีฬา 2 ประเภทนี้จำเป็นที่ต้องใส่ Goggles จึงอยากให้มีเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีขนาดใหญ่พอที่สามารถนำทำมาเป็น Goggles ได้ เนื่องจากเวลาที่ผมเล่นกีฬา 2 ประเภทนี้ ผมต้องหา Goggles ที่มีขนาดใหญ่มาก และแว่นตาโปรเกรสซีฟที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อที่จะใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟเข้าไปแล้ว สามารถใส่ Goggles ทับเข้าไปอีกทีหนึ่งได้ จึงทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไร