ไอซอพติก เราสร้างแว่นตาเพื่อให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้อย่างสนุกที่สุด มีพลังมากที่สุด เหนื่อยน้อยที่สุด ทำงานได้มากที่สุด ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน ต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรคือ ดีที่สุด สำหรับไอซอพติก หรือตัวผมเอง ดีที่สุดของวันนี้คือ เป็นดีที่สุดซึ่งต้องทำให้ดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น เพราะว่ามันมีสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ ดังนั้นปรัชญาการทำงานของไอซอพติกคือ ประชุมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งองค์กร ทั้งทีมงาน เรามุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ทำให้ดีขึ้นทุกวัน ทำให้ดีที่สุด แล้วพรุ่งนี้ก็ทำให้ดีขึ้น
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เราสร้างแว่นตาเพื่อให้ทุกคนสามารถที่จะมีการมองเห็นที่ดีที่สุดเท่าที่สภาพตาของเขาจะเป็นไปได้ เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้
คำว่า คุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด คือคุณภาพการมองเห็นที่ภาพชัดเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยสมองไม่ต้องฝืนเพ่งเมื่อเรามองภาพตกไปถึงจอประสาทตา ถ้าภาพไม่ชัดสมองจะทำการเพ่ง มีการกดรูม่านตาให้แคบลง แล้วเพิ่มความโค้งของเลนส์แก้วตา เพื่อให้แสงตกพอดีจอประสาทตาหรือใกล้เคียงมากที่สุด ถ้าเกิดภาพที่รวมแล้วยังไม่ชัด สมองพยายามที่จะปรับให้ชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ไอซอพติกแก้ปัญหานี้ โดยการสร้างแว่นเฉพาะบุคคล ตรวจวัดออกแบบสร้างขึ้นมาตามค่าสายตาที่แท้จริงของตาแต่ละข้างและการทำงานร่วมกันของตาสองข้างในระบบดิจิตอล 3 มิติ แก้ไขภาวะตาเขซ่อนเร้นไม่ต้องฝืนเพ่งก็สามารถรวมภาพได้อย่างสบาย ใส่แล้วไม่ล้า ไม่ปวด โฟกัสภาพได้เร็ว กะระยะได้แม่นยำ รู้สึกสบายเป็นธรรมชาติ และก็ไม่ต้องฝืนเพ่งเหมือนกับแว่นตาทั่วไป สามารถที่จะทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง โดยลืมไปเลยว่าใส่แว่นอยู่
Mr. Angelito D. Ferrer อายุ 58 ปี
ตำแหน่ง Business Leader , Healthcare Support Services N Health Healthcare
ผมจำได้ว่าเริ่มมีอาการสายตายาวตอนอายุ 41 ปี เวลาที่ดูอะไรก็ตามจะต้องให้สิ่งนั้นอยู่ห่างออกไปถึงจะอ่านได้ถนัด แล้วหลังจากนั้นผมก็เริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ
ในช่วงเริ่มต้นใส่แว่นโปรเกรสซีฟนั้นไม่รู้สึกสบายตาเลย แม้ว่าผมพยายามที่จะปรับตัวเข้ากับแว่นสองคู่แรกแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ คู่แรกผมเลิกใส่ตั้งแต่สัปดาห์แรก ส่วนคู่ที่สองนั้น ผมต้องพยายามฝืนตัวเองให้ปรับเข้าหาข้อจำกัดของแว่นเพื่อจะได้บรรเทาปัญหาการมองเห็นของผม
แต่การใส่แว่นนั้นก็ยังไม่ให้ความรู้สึกสบายตามธรรมชาติได้ ผมใส่แว่นทำงานต่อเนื่องได้เพียงแค่สองชั่วโมง หลังจากนั้นดวงตาผมจะรู้สึกเหนื่อยมาก และเห็นภาพเบลอ ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำงานต่อได้อีก ผมต้องคอยถอดแว่นหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้ตาได้พักก่อนที่จะใส่แว่นอีกครั้ง
แว่นตาโปรเกรสซีฟคู่แรกนั้น ผมคิดว่าค่าสายตานั้นคลาดเคลื่อนถึงขนาดที่ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย ผมจึงไม่ใส่แว่นเลยยกเว้นเวลาที่นั่งทำงานที่โต๊ะ ส่วนคู่ที่สองนั้นถึงแม้จะรู้สึกว่าค่าสายตายังคลาดเคลื่อนอยู่แต่ผมก็ยังใส่ต่อจนปรับตัวเข้ากับแว่นได้ ผมยอมรับว่าการมองด้านข้างผิดเพี้ยนนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าหากเลือกใส่โปรเกรสซีฟเลนส์ ซึ่งนั่นทำให้เวลาหันศีรษะจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งนั้นทำให้รู้สึกปวดหัว และคลื่นไส้ ต้องใช้เวลาเกินกว่าครึ่งวินาทีในการปรับโฟกัสซึ่งทำให้ตาล้าจากการที่พยายามปรับโฟกัสกลับไปกลับมาอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดภาพเบลอหลังจากที่ใส่แว่นนาน เวลาที่ชำเลืองมองด้านข้างขณะที่หันศีรษะอย่างเร็วจะใช้เวลาหาโฟกัสอย่างต่ำสองวินาที ส่วนเวลาที่มองลงเพื่ออ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์นั้น ผมรู้สึกว่ามุมที่ใช้มองให้ชัดนั้นไม่ใช่มุมที่เป็นธรรมชาติ
หลังจากที่ผมเปลี่ยนมาใช้เลนส์ที่มีคุณภาพสูงสุดที่ออกแบบเลนส์โดยศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ผมรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเลนส์โปรเกรสซีพธรรมดาที่ผมเคยใส่มา ภายในครึ่งวันผมสามารถปรับตัวให้เข้ากับแว่นได้ทั้งเวลาเดินหรือขับรถรวมถึงเวลาที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย ผมใส่แว่นได้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน เพราะรู้สึกได้ถึงความสบายที่เป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับแว่นคู่อื่นที่ใส่มาก่อนหน้านี้ เวลาขับรถผมก็สามารถกะระยะได้แม่นยำราวกับว่าผมไม่ได้ใส่แว่นอยู่เลย
ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับการมอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนพื้นต่างระดับ หรือขึ้นลงบันได แม้แต่บันไดที่สูงชันที่ปกติผมต้องเช็คให้มั่นใจก่อนก้าวเดินก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นอีก การเห็นภาพเป็นวูบ ๆ หรือการบิดเบือนเวลามองด้านข้างอาการปวดศีรษะที่เกิดจากการหันไปมารวดเร็วก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลยในช่วงเวลาสองปีที่ผมใช้เลนส์มา
ความเร็วในการจับโฟกัสเวลาที่มองวัตถุในแนวตั้งจากระยะไกลเป็นใกล้ และระยะใกล้เป็นไกลก็เป็นธรรมชาติ เวลาที่ผมมองด้านข้างหรือหันศีรษะไปมา ความเร็วในการโฟกัสเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือความคมชัด สีสัน และความกระจ่างใสที่มองเห็นผ่านเลนส์ เป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์มากที่เกิดขึ้นกับผมหลังจากที่ต้องทนใส่แว่นตาโปรเกรสซีพเลนส์คุณภาพต่ำที่มีข้อจำกัดในการมองเห็นมากมาย อาการตึงเกร็งที่หลังคอผมก็หายไปเป็นเพราะเลนส์ที่ออกแบบโดยไอซอพติก
การทำงานของผม N Health Healthcare Service Solutions และกลุ่มเครือโรงพยาบาลกรุงเทพนั้นเกี่ยวข้องกับการควบคุมการติดเชื้อ และความปลอดภัยของคนไข้ ทำให้ต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียด การวิเคราะห์ข้อมูล การอ่านข้อมูลทั้งจากสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และบนคอมพิวเตอร์เพื่อให้ก้าวทันการพัฒนาของเทคนิค และกระบวนการฆ่าเชื้อโรค และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ การติดตามความรู้ต่าง ๆ นั้นทำให้เราสามารถให้บริการที่มีมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยสูงสุดกับคนไข้ในกลุ่มเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ การมองเห็นที่ชัดเจน มีลานสายตาที่กว้าง ความรู้สึกในการมองเห็นที่เป็นธรรมชาติที่ได้จากโปรเกรสซีฟเลนส์ นั้นทำให้ผมได้การมองซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำงานของผมดีขึ้นกลับคืนมาด้วย
ตอนที่ใช้เลนส์เก่านั้น คำตอบที่ผมมักจะได้จากร้านที่ประกอบแว่นตาก็คือ เลนส์โปรเกรสซีฟนั้นผู้สวมใส่ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเลนส์เอง ให้ลองพยายามปรับตัวอีกครั้งแล้วอีกสองสามสัปดาห์ให้กลับมาหาใหม่ แต่กับที่ไอซอพติกนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นอกจากมีการตรวจวัดตาที่ทันสมัยแล้ว ทางศูนย์ยังมีการสัมภาษณ์ และเก็บข้อมูลตำแหน่งของศีรษะและดวงตาเวลาที่อ่าน หรือมองไปรอบ ๆ ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญ ทางทีมบริการลูกค้าก็ให้บริการอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแป้นจมูก การทำความสะอาดแว่นตา การปรับกรอบแว่น และการตรวจวัดตาเพื่อให้มั่นใจว่าได้ค่าสายตาที่ถูกต้อง ทางศูนย์ยังตัดแว่นตาให้ผมใหม่เพียงเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเล็กน้อยให้กับผม พนักงานเป็นมิตร และเต็มใจให้บริการ ผมจึงแนะนำอย่างยิ่งสำหรับโปรเกรสซีฟเลนส์ที่ออกแบบจากศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก