หลักของแว่นโปรเกรสซีฟที่จะทำให้ใส่สบายมีอยู่ 4 ประการ
1. คุณภาพของการตรวจวัด
ถ้าการตรวจวัดผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง ไม่เที่ยงตรง ไม่แม่นยำ ไม่เหมาะสม ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งทำให้แว่นโปรเกรสซีฟไม่สามารถใช้งานได้จริง หรือ ใช้งานได้ไม่ดี
2. คุณภาพเลนส์
เลนส์โปรเกรสซีฟในโลกนี้จะมีคุณภาพตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านบาท ซึ่งคุณภาพก็จะแตกต่างกันไปตามราคา แต่ไม่ได้หมายความว่า เวลาเราซื้อเลนส์คู่ละแสน แล้วจะใช้งานได้ดีกว่าเลนส์คู่ละ 50,000 บาท เสมอไป
ดังนั้นการที่เราจะทำให้ประสิทธิภาพของแว่นโปรเกรสซีฟออกมามีประสิทธิภาพได้ 100% คือ จะต้องประกอบสร้างแว่นให้ตรงตามตำแหน่งที่เลนส์คู่นั้นถูกออกแบบมา ถ้าตำแหน่งไม่ตรงประสิทธิภาพก็จะลดลงตามความแตกต่าง เช่น ต่างกัน 10% ประสิทธิภาพก็ลดลง 10% ต่างกัน 30% ประสิทธิภาพก็หายไป 30% ถ้าต่างกัน 60% ประสิทธิภาพก็หายไป 60% นี่เป็นเหตุว่าทำไมซื้อเลนส์คู่ละแสนแต่ใช้งานได้เหมือนคู่ละหมื่น
3. โครงสร้างเลนส์ที่ไม่เหมาะสม
เลนส์โปรเกรสซีฟจะมีจุดโฟกัสที่แตกต่างกันทั่วทั้งแผ่นเลนส์ ซึ่งในเลนส์แต่ละรุ่นจะมีตำแหน่งของจุดโฟกัสในระยะไกล ( ระยะเกิน 6 เมตร ) ระยะกลาง (ระยะ 6 เมตรลงมา )
ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า 6 เมตร คือระยะไกล เป็นระยะที่ปลอดการเพ่ง หรือ เสมือนหนึ่งว่าไม่มีการเพ่ง แต่งานวิจัยสมัยใหม่ยืนยันว่าที่ระยะ 6 เมตร ยังมีการเพ่งอยู่ ถ้าจะเอาระยะที่แทบไม่มีการเพ่งเลย หรือ ใกล้เคียงกับคำว่าไม่มีการเพ่งเลย คือระยะ 12 เมตร นี่เป็นเหตุที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกใช้การวัดสายตาที่ระยะ 12 เมตร เพราะจะได้ค่าที่ใกล้เคียงกับค่าระยะอนันต์ หรือ ค่าสายตามองไกลมากที่สุด ซึ่งผลที่ออกมา จะได้แว่นตาที่ให้ค่ามองไกลที่แท้จริง ให้ภาพคมชัดสมจริงเมื่อใช้ขับรถในสภาวะแสงน้อย