กรอบแว่นแต่ละอันจะมีความโค้งไม่เท่ากัน ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกได้ว่า ต้องการความโค้งเท่าใด และต้องควบคุมการประกอบ การสั่ง การผลิต ให้ได้ตามที่เราต้องการ ถ้าแว่นตาเฉพาะบุคคลประกอบออกมาไม่ตรงกับค่าที่สั่งผลิต ผลที่ได้ขอใช้คำว่า หายนะด้านการมองเห็น
ปัจจุบันแว่นโค้งส่วนใหญ่โดยเฉพาะแว่นโปรเกรสซีฟ ถูกประกอบออกไปแล้วไม่สามารถใช้งานได้จริงเ พราะว่า
- ภาพบิดเบี้ยวด้านข้างเพิ่มขึ้น 3 เท่า
- โฟกัสภาพลำบาก หรือ โฟกัสภาพไม่ได้ เนื่องจากเมื่อค่าความโค้งส่วนหน้าไม่ตรงกับเลนส์ที่ถูกออกแบบมา ภาพจากตาข้างขวาซึ่งมันควรจะซ้อนทับกับภาพจากตาข้างซ้าย แล้วผนึกรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ความคมชัดสูงสุดในแต่ละระยะ จะเกิดการแยกของภาพเป็น 2 ชุด เนื่องจากค่าของความโค้งส่วนหน้าไม่ตรง ตาขวาจะเห็นภาพชุดหนึ่ง ตาซ้ายจะเห็นภาพอีกชุดหนึ่ง และไม่สามารถรวมได้ จึงเกิดอาการที่เราเรียกว่า ภาพซ้อน ไม่สามารถที่จะโฟกัสภาพได้ โฟกัสภาพลำบาก ไม่สบายตา ปวดหัว และสุดท้ายก็ไม่สามารถใช้งานได้เลย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วโลก
ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีปัญหาเรื่องของการวัด Face from Angle ( FFA ) หรือ ค่าความโค้งส่วนหน้า ในปัจจุบันรามีผู้เชี่ยวชาญน้อยมากที่สามารถวัดค่า FFA ของแว่นที่มีความโค้งมากกว่า 15 องศาขึ้นไป ออกมาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะคาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 3-5 องศา ขณะที่ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ก็คือ 1 องศา ค่าความคลาดเคลื่อนของ FFA เกิน 1 องศาเมื่อไหร่ ประสิทธิภาพของเลนส์จะลดลง อธิบายง่าย ๆ คือ การผิดพลาดที่ระดับ 1 องศา ประสิทธิภาพของเลนส์หายไป 30% ความผิดพลาดที่ระดับ 2 องศา ประสิทธิภาพของเลนส์หายไป 60% และความผิดพลาดที่ระดับ 3 องศา เป็นระดับที่ไม่น่าจะใช้แว่นได้แล้ว เนื่องจากประสิทธิภาพของเลนส์ลดลงไป 90% เหลือฟังก์ชั่นการใช้งานเพียง 10% ดังนั้นปัจจุบันจึงมีการรับประกันหลายรูปแบบ บางที่รับประกันให้ 100% แบบไม่มีเงื่อนไข บางที่รับประกันแบบมีเงื่อนไข แต่ไอซอพติกเป็นที่เดียวที่รับประกันความพึงพอใจให้ 180 วันเต็ม เป็นการรับประกันแบบไม่มีเงื่อนไข ที่ไอซอพติกเรายืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าเสมอ
ปัจจุบันนี้ ( ค.ศ. 2019 ) เรามีเลนส์คู่ละ 500,000 บาท สามารถที่จะออกแบบเฉพาะบุคคล ให้กับคนแต่ละคนด้วยแว่นอันเดียวให้สามารถใช้งานได้ทุกอย่าง โดยผู้ใช้ต้องเรียนรู้วิธีใช้ และเข้าใจข้อจำกัดของเลนส์ หลังจากเรียนรู้วิธีใช้ และเข้าใจข้อจำกัดของเลนส์ แล้วก็สามารถที่จะใช้งานได้เหมือนกับเป็นหนุ่มอีกครั้ง แล้วก็มีพลังเหมือนได้กลับไปอายุ 30 ปี สมองมีพลังมากขึ้น ทำงานได้มากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง สนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ในงบประมาณค่าใช้จ่าย 500,000 บาท แน่นอนว่าความจำกัดยังมีอยู่ แต่ที่ไอซอพติกแว่นตาของเรามีความจำกัดน้อยที่สุดในโลก เพราะงานของเราคือ การสร้างแว่นที่มีข้อจำกัดน้อยที่สุดให้กับลูกค้าของเราทุกคน ทำให้มีชีวิตที่ดีที่สุด มีพลังมากที่สุด ที่สำคัญคือเรามีเลนส์ให้ลอง ( ค่าทดลองเลนส์ 1,000 บาท ) ส่วนแว่นโค้งสามารถทำได้หมด โดยสูงสุดที่ระดับ 30 องศา ซึ่งความโค้ง 30 องศา เราจะไม่ค่อยใช้บนกรอบเจาะ เราจะใช้บนกรอบเต็ม
ปกติคนทำแว่นจะมีปัญหามากในการทำแว่นที่เป็นลักษณะแบบนี้คือ เป็นกรอบที่ทำจากเนื้อวัสดุที่จัดอยู่ในกลุ่มพลาสติกชนิดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัว TR หรือว่า Acetate การวัดค่าความโค้งด้านหน้าของกรอบแว่นบนกรอบแว่นชนิดนี้ วัดค่อนข้างยาก ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญจริง ๆ ปกติคนทำแว่จะตกม้าตายกันกับแว่นลักษณะนี้มากที่สุด เนื่องจากเป็นลักษณะของกรอบแว่นที่ทำให้การอ่านค่าความโค้งด้านหน้าของกรอบแว่นผิดได้ถึง 5 องศา ขณะที่ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้แค่ 1 องศา จึงไม่แปลกที่ลักษณะแบบนี้เป็นหายนะของแว่นโปรเกรสซีฟที่ทำกันอยู่ทั่วโลก ซึ่งที่ไอซอพติกเรามีระบบการทำงานที่สามารถที่จะควบคุมการวัดค่าความโค้งให้แม่นยำ ลักษณะกรอบโค้งก็จะมีหลายแบบ การวัดโค้งของกรอบตัวนี้ก็ค่อนข้างยาก อันเนื่องมาจากว่ามีเขี้ยวยึดเลนส์เข้ามาบัง ทำให้การดูขอบเลนส์อ่านลำบาก
แว่นโค้งถ้าได้รับการประกอบอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ และใช้เลนส์คุณภาพดี มีเทคโนโลยีสูงที่สามารถออกแบบเลนส์ให้การมองครอบคลุม 360 องศา ด้วยตาสองข้าง ทุกจุดของเลนส์สามารถใช้งานได้หมด สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ เราจะได้แว่นตาที่มุมมองด้านข้างคมชัดสมจริงกว่าแว่นหน้าตรง อันเนื่องมาจากแว่นโค้งเวลาที่เรามองออกนอกจุดศูนย์กลางตาดำในแนวตรง เมื่อเรามองด้านข้าง เนื่องจากเลนส์มีความโค้ง ดังนั้นเวลามองก็จะมีการรับกับการเหลือบของแต่ละข้างมุมทะแยง ก็จะมีเลนส์รับเป็นความโค้งด้านข้าง ทำให้เซ็นเตอร์ของภาพสามารถที่จะมองได้คมชัดสมจริงกว่า ภาพบิดเบี้ยวด้านข้างน้อยกว่า
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ พอทำแว่นโค้งใส่แล้วเมา อธิบายง่าย ๆ คือ เมากว่าแว่นหน้าตรงบนราคาที่เท่ากัน สาเหตุเพราะว่า ความโค้งส่วนหน้า และเลนส์คุณภาพไม่ดีพอ ทำให้ประสิทธิภาพของเลนส์เหลือแค่ 40 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ภาพหลอนด้านข้างจะเพิ่มขึ้น 60 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ นี่เป็นหัวใจว่าทำไมใส่แล้วเมา
เวลาใส่แว่นโค้งปัจจัยมี 2 จุด
- ใส่แล้วเมา เพราะภาพบิดเบี้ยวด้านข้างสูงขึ้น
- ใส่แล้วโฟกัสภาพไม่ได้ ภาพซ้อน
ทั้งสองอย่างนี้ทำให้ใส่แล้วปวดหัว หรือปวดหัวอย่างรุนแรงชนิดที่ไม่สามารถใช้งานได้เลย ซึ่งคนจำนวนมากมีประสบการณ์นี้แล้วก็เข็ดกับแว่นโค้ง แนะนำให้มาที่ไอซอพติก ซึ่งเราสามารถทำให้ใส่สบายได้ นอกจากใส่สบายแล้ว ยังดีกว่าแว่นหน้าตรง บุคลิกดีกว่า เราสามารถออกแบบกรอบแว่นโค้งให้กับคนแต่ละคนได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ที่สำคัญมุมมองกว้าง สบาย เป็นธรรมชาติ อย่างผม ผมใส่แว่นโค้งมา 12 ปีแล้ว วันแรกที่ใส่แว่นโค้งที่เราประกอบได้ถูกต้อง ทำให้ไม่อยากจะกลับไปใส่แว่นหน้าตรงอีกเลย เพราะว่าภาพมันคมชัดสมจริง จะเคลื่อนไหวอย่างไรก็เป็นอิสระ มุมมองแทบไม่มีข้อจำกัด ผมสามารถที่จะหัน เดิน ขยับตัว เคลื่อนไหว ได้ดั่งใจนึก นี่คือสิ่งที่เราจะได้จากแว่นโค้ง